กรมศุลกากรร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร ผศ.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวสุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายธนกฤต ลิ้นทอง ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ พล.ต.ต. ทัศน์ภูมิ จารุปรัชน์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายแพทย์ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค นายกฤษดา สุขการีย์ รองผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการเรือและสินค้า การท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวตรวจยึด “บุหรี่ไฟฟ้า” ชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 46,260 ชิ้น มูลค่า 10,871,100 บาท ซึ่งเป็นของต้องห้าม
ในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายโดยกำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล (Quick Big Win) ที่ต้องดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อความปลอดภัยของสังคมและประชาชน ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
จึงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภารกิจเชิงรุกในการสกัดกั้นยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย กรมศุลกากรได้ขานรับนโยบายและดำเนินการอย่างเข้มงวดในการปราบปราม พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ
สำนักนายกรัฐมนตรี กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง การท่าเรือ
แห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบการนำเข้าสินค้าดังกล่าว
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ พร้อมด้วยกองสืบสวนและปราบปราม
กรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบตู้สินค้าที่ตกเป็นของตกค้าง จำนวน 7 ตู้
ณ ฝ่ายของกลางและของตกค้าง สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ
ผลการตรวจสอบ พบเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ด และพบการซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้งคละกลิ่น
จำนวน 46,260 ชิ้น มูลค่ารวม 10,871,100 บาท สินค้าดังกล่าวเป็นของต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 ประกอบ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่อว่า จะเห็นว่า พฤติการณ์การลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจะเปลี่ยน
เป็นการซุกซ่อนปะปนอยู่กับสินค้าอื่น ๆ ภายในตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อหลบซ่อนการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ จากการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้สามารถป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปกป้องสังคมได้อย่างปลอดภัย สำหรับสถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ในปีงบประมาณ 2569 (ตั้งแต่เดือน 1 ตุลาคม – 11 ธันวาคม 2568) ตรวจยึดได้ 123,870 ชิ้น/อัน/กล่อง/เซต มูลค่ารวมทั้งสิ้น 25,170,659 บาท















ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น