ศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมนานาชาติ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สร้างชื่อเสียงที่ประเทศจีน หลังส่งเยาวชนไทยเข้ารวมงานเทศกาลนานาชาติแลกเปลี่ยนศิลปะเยาวชนไทย-จีน ครั้งที่ 8 ในรายการโทรทัศน์พิเศษที่สตูดิโอโทรทัศน์ในเสิ่นหยาง

       

สำหรับงาน"เทศกาลนานาชาติแลกเปลี่ยนศิลปะเยาวชนไทย-จีน ครั้งที่ 8  ในรายการโทรทัศน์พิเศษที่สตูดิโอโทรทัศน์ในเสิ่นหยาง ประเทศจีน ได้ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ   โดยงานใหญ่นี้มีเยาวชนไทยเป็นผู้เข้าร่วมสําคัญในงานนี้   ไม่เพียงแต่จะนําศิลปะพื้นบ้านไทยไปสู่เวทีระดับนานาชาติแล้ว  แต่ยังเป็นจุดเชื่อมความสําคัญในการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างเยาวชนไทยและจีน และขยายขอบเขตอันไกลโพ้นระหว่างประเทศอีกด้วย

       พิธีนี้ได้รับการสนับสนุนร่วมกันจากศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมนานาชาติแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจัดงาน “ไซน่า เซิง  ซิน ไจโอ ไซ ” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ " ไซน่า ฮอง แบ็ง ไซ เย” โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนของประเทศไทย  เป็นที่น่าสังเกตว่าทีมศิลปะเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจากประเทศไทย  ได้นําการแสดง โอ-เป-ร่า-ขง-จื๊อ แบบดั้งเดิมที่แท้จริง - หน้ากากที่งดงามและภาษากายที่สง่างาม แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมพุทธศาสนาไทยและศิลปะพื้นบ้านอย่างชัดเจน จน ได้รับเสียงปรบมืออย่างอบอุ่นจากผู้ชมชาวจีนและชาวไทย สะท้อนด้วยศิลปะการต่อสู้อันทรงพลังและการแสดงเต้นรําแบบดั้งเดิม และคนหนุ่มสาวจากทั้งสองประเทศได้เรียนรู้จากกันและกันในเวทีเดียวกันและสร้างสะพานเชื่อมการสื่อสารกับศิลปะ

       ดร.ภัณฑ์วัฒน์ วัชรากุลภิรมย์ (สุนทรัพย์สิน จง)  ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมนานาชาติ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในฐานะ ผู้อํานวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมนานาชาติไทย  ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ว่าต่อหน้าผู้ชมว่า  "เยาวชนไทยสามารถแสดงศิลปะท้องถิ่นของตนในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองทางวัฒนธรรม แต่ยังช่วยให้เมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพไทย-จีนหยั่งรากลึกในหัวใจของคนรุ่นใหม่อีกด้วย เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลกเสมอหัวหน้าผู้อํานวยการโครงการ “สาเจ่ โพลน ซูน” ของจีนริเริ่มเทศกาลศิลปะนานาชาติเยาวชนจีน-ไทย ยังกล่าวถึงว่า "เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะไทยดั้งเดิมนั้นน่าประทับใจ ในอนาคตเราจะไม่เพียงแต่จัดแสดงเวทีแสดงผลงานที่มีมาตรฐานสูงขึ้นสําหรับเยาวชนจีนและไทย แต่ยังใช้ศิลปะเป็นพาหะในการดําเนินภารกิจแลกเปลี่ยนของมหาอํานาจทางวัฒนธรรม เพื่อให้เยาวชนของทั้งสองประเทศสามารถเติบโตไปด้วยกันในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และสร้างรากฐานที่มั่นคงสําหรับเยาวชนแห่งมิตรภาพไทย-จีน ”

       มีรายงานว่าพิธีครั้งที่ 9 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 ที่สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของจีนในรูปแบบ “สาเกส แอนด์ โพรน ซูน 2026 ไทยแลนด์ ไซน่า อาท สปริง เฟสติเวล เกลล่า”  เมื่อถึงเวลานั้นวัยรุ่นไทยจะมีโอกาสสมัครเข้าร่วมมากขึ้น เพื่อให้องค์ประกอบทางวัฒนธรรมไทยสามารถถ่ายทอดไปยังผู้ชมชาวจีนได้มากขึ้นผ่านหน้าจอทีวี และในขณะเดียวกันพวกเขาก็สามารถเล่นด้วยกันท่ามกลางน้ําแข็งและหิมะได้อีกด้วย///