ศุลกากรจับผู้โดยสารเวียดนาม ลักลอบขนนอแรดจากแองโกลา เตรียมผ่านไทยไปลาว มูลค่า 6.9 ล้านบาท
วันนี้ (วันที่ 7 กันยายน 2568) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้มีนโยบายให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้
สูญพันธุ์ของประเทศไทยและของโลก หน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากรจึงเฝ้าระวังการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับ
การลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอย่างใกล้ชิด โดยนายวิศณุ วัชราวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ในสังกัดฯดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
เพื่อสกัดกั้นขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า
และพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส (CITES) ผ่านทางท่าอากาศยาน โดยใช้ข้อมูลการข่าว
และการวิเคราะห์ข้อมูลผู้โดยสารจากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า จนสามารถระบุตัวผู้โดยสาร
ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบขนส่งนอแรดผ่านประเทศไทย และนำไปสู่การขยายผลตรวจค้น - จับกุมได้ในครั้งนี้
ที่กรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
เพื่อเดินทางต่อไปยังปลายทางนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยชายคนดังกล่าว
มีลักษณะตรงตามข้อมูลที่ทำการวิเคราะห์ไว้ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พบนอแรด จำนวน 5 ชิ้น น้ำหนักรวม 6.86 กิโลกรัม มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 6.9 ล้านบาท
ซึ่งกรณี เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และ พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า กรมศุลกากรจะทำการร่วมมือและวิเคราะห์ข้อมูลกับหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อสกัดกั้นขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส (CITES) ให้เกิดวามมั่นคง
ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น