รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่สำรวจการจัดพื้นที่ห้องสูบบุหรี่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งสู่มาตรฐานระดับสากล เทียบเท่าท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก

 เมื่อวันที่(6 มิถุนายน 2568) เวลา 08.30 น. นายสมศักดิ์  เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้บริหารจากกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดพื้นที่สูบบุหรี่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) 




เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร  ชินวัตรที่มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ร่วมกันพิจารณาจัดพื้นที่สูบบุหรี่ภายในสนามบินให้เป็นสากล

เหมือนสนามบินทั่วโลก ให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมมีระบบระบายอากาศที่ได้มาตรฐาน และไม่ขัดต่อกฎหมาย

 โดยมี นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยผู้บริหาร ทสภ. ร่วมรับการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้

        ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมและสำรวจห้องสูบบุหรี่บริเวณชานชาลา ชั้น 4 ประตู 1 ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมสำรวจพื้นที่จัดทำห้องสูบบุหรี่ภายใน

อาคารผู้โดยสาร บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน B ชั้น 4 และอาคารเทียบเครื่องบิน D ชั้น 2  

        นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT พร้อมรับนโยบายตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการจัดทำห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT ทั้ง 6 แห่ง ซึ่งการที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ท่าอากาศยานมีการจัดสร้างห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารได้นั้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเดินทางแบบสากล สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับท่าอากาศยาน สำหรับ ทสภ.

ถือเป็นท่าอากาศยานแรกที่จะเริ่มแผนการดำเนินการจัดทำห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งในระยะแรก ทสภ.



ได้กำหนดแผนการดำเนินการบริเวณพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ จำนวน 3 จุดให้บริการ ได้แก่ บริเวณอาคารเทียบเครื่องบิน B จำนวน 2 จุด และอาคารเทียบเครื่องบิน D (ฝั่งตะวันตก) จำนวน 1 จุด โดยห้องสูบบุหรี่ทุกห้องจะติดตั้งระบบกรองอากาศและจัดการควันบุหรี่ที่ทันสมัยได้มาตรฐาน มีประตูเปิดปิดแบบสองชั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ไม่สูบบุหรี่ และมีการจัดสร้างที่ไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อสั่งการให้ออกแบบพื้นที่สูบบุหรี่แบบเปิดโล่ง

(Open Smoking Area) เพิ่มเติม เพื่อเป็นอีกแนวทางในการดำเนินการต่อไป นายกิตติพงศ์  กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการจัดเตรียมพื้นที่

ห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารผู้โดยสารหลักแล้ว ทสภ. ได้เตรียมพื้นที่ห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1

(Sat-1) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริเวณชั้น 2 และ ชั้น 3 รวม 8 ห้อง ซึ่ง ทสภ. จะเร่งปรับปรุงให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะ

ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ได้มาตรฐานในระดับสากลเทียบเท่าท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก โดยจะเร่งกระบวนการติดตั้งระบบต่างๆ ให้รวดเร็วที่สุดเพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการห้องสูบบุหรี่

      ทั้งนี้ ปัจจุบันในระหว่างรอการอนุมัติให้สามารถเปิดให้บริการห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารผู้โดยสารได้นั้น เพื่อบรรเทาปัญหาผู้โดยสารสูบบุหรี่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ทสภ. จึงได้เปิดให้บริการห้องสูบบุหรี่พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศและระบบฟอกอากาศ บริเวณชานชาลา (ภายนอกอาคารผู้โดยสาร) จำนวน 4 ห้อง โดยแบ่งเป็น ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 บริเวณประตู 1 และประตู 10 และด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 บริเวณประตู 1 และประตู 10 นอกจากนี้ 

ทสภ. ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งห้องสูบบุหรี่เพิ่มเติมอีก 1 จุด คือ หน้าชานชาลา ชั้น 4 ประตู 5 โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้  

*******************************



ฝ่ายกิจการพิเศษและมวลชนสัมพันธ์ 

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ 0 2132 9021



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ! Kloss Wellness Clinic ผู้นำคลินิกดูแลสุขภาพครบวงจร ขึ้นรับรางวัล สถานประกอบการฟื้นฟูและชะลอวัยดีเด่นแห่งปี ในงาน THE WORLD'S HIGHEST AWARDS 2024

โรงเรียนสวนกุหลาบสมุทรปราการ จับมือ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ฮาร์บิน ประเทศจีน จัดพิธีลงนามทำ MOU เปิดศูนย์ประสานงานและการเรียนรู้ภาษาจีน

งานบุญกฐิน ประจำปี 2567 วัดบางพลีใหญ่กลาง รวมยอดจากสายบุญทุกสาย กว่า 1.6 ล้านบาท อย่างไม่เป็นทางการ