“อลงกรณ์”โชว์วิสัยทัศน์เวทีเส้นทางสายไหมนานาชาติ ดึงจีนลงทุน12อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ดันไทยประเทศรายได้สูง

 

 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมสุดยอดการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 2024 และงานนิทรรศการสินค้าประเทศตามแนว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ณ นครอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน

โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า

นับตั้งแต่ข้อริเริ่ม “อีต้าอีลู่ หรือเส้นทางสายไหม หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง One Belt and One Road” ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในปี 2013 โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เพื่อรื้อฟื้นเส้นทางสายไหมในอดีตสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ เมื่อกว่า2พันปีก่อนสู่เส้นทางสายไหมใหม่ในศตวรรษที่ 21

     เป็นเวลา11ปีที่ประเทศไทยและจีนได้สร้างความร่วมมือระหว่างกันอย่างเต็มที่ภายในกรอบ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล เกษตรกรรม การค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างดี จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี เป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของไทย แหล่งเงินทุนต่างประเทศหลัก และแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับ1  นอกจากนี้ ไทยและจีนยังคงมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด สร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้ง "ไทย จีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" กลายเป็นประโยคที่เข้าใจกันอย่างแพร่หลายของประชาชนทั้งสองประเทศ 

 ความสำเร็จของความร่วมมือไทย-จีนในวันนี้ มาจากการที่ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นในหลักการของการเคารพซึ่งกันและกัน การให้ความเสมอภาค ผลประโยชน์ร่วมกัน และการร่วมกันสร้างนวัตกรรม นอกจากนี้ ยังเป็นผลงานที่มาจากความร่วมมือระยะยาวระหว่างภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศที่กำลังดำเนินไปอย่างลึกซึ้ง ความร่วมมือระหว่างไทย-จีนกำลังเผชิญกับโอกาสมากมายมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของประเทศไทย (2018-2037) ระบุว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2036 และจะดำเนินการแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (2023-2027) เพื่อเข้าสู่โหมดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (BCG :Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งรวมถึงนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาและเชื่อมต่อระบบดิจิทัล การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เน้นคุณค่าในกรอบ "Thailand 4.0" การพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน และการเน้นการถือประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะการเพิ่มความกระตือรือร้นสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน เป็นเพราะความสอดคล้องกันระหว่างแนวคิด "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กันนโยบายการพัฒนาของไทยทำให้เกิดความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่มีศักยภาพสูงในหลายๆ ด้าน

ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนนักลงทุนชาวจีนและนานาประเทศให้มาร่วมลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของไทย (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) และเข้าร่วมอย่างกระตือรือร้นใน"12 อุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต"ของไทย (12 S-CURVES)เช่น การค้าและการลงทุนในสาขาเทคโนโลยีและหุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การท่องเที่ยวและการแพทย์ อุตสาหกรรมดิจิทัล ยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น เพื่อเชื่อมโยงกับโอกาสต่างๆ ภายใต้แนวคิด "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" และเปิดศักราชใหม่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจไปด้วยกัน.

     สำหรับการประชุมสุดยอดการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 2024 และงานนิทรรศการสินค้าประเทศตามแนว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”จัดขึ้นที่

นครอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่20 พฤษภาคม 2567 มีตัวแทนจากประเทศไทยคือนางสาวอภิญญา ปราโมช นายกสมาคมการค้าไทย-จีนและเศรษฐกิจเอเชียเข้าร่วมประชุมด้วย.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ! Kloss Wellness Clinic ผู้นำคลินิกดูแลสุขภาพครบวงจร ขึ้นรับรางวัล สถานประกอบการฟื้นฟูและชะลอวัยดีเด่นแห่งปี ในงาน THE WORLD'S HIGHEST AWARDS 2024

โรงเรียนสวนกุหลาบสมุทรปราการ จับมือ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ฮาร์บิน ประเทศจีน จัดพิธีลงนามทำ MOU เปิดศูนย์ประสานงานและการเรียนรู้ภาษาจีน

งานบุญกฐิน ประจำปี 2567 วัดบางพลีใหญ่กลาง รวมยอดจากสายบุญทุกสาย กว่า 1.6 ล้านบาท อย่างไม่เป็นทางการ